ปลาน้ำจืดของไทย
ปลาเป็นสัตว์น้ำที่มีกระดูกสันหลัง มีครีบ มีเกล็ดหรือไม่มีเกล็ด และหายใจทางเหงือก ปลาอาศัยอยู่ในน้ำ อุณหภูมิของตัวปลาเปลี่ยนได้ตามอุณหภูมิของน้ำที่มันอาศัยอยู่ นักวิทยาศาสตร์จึงจัดปลาไว้ในกลุ่มสัตว์เลือดเย็น
ในบรรดาสัตว์มีกระดูกสันหลัง ปลามีจำนวนชนิดมากที่สุด คือ มีอยู่ประมาณ 20,000 ชนิด สัตว์ที่มีกระดูกสันหลังอื่นๆ ที่มีจำนวนชนิดรองไปจากปลา ได้แก่ นก สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และสัตว์ครึ่งน้ำครึ่งบก
ปลาต่างชนิดกันมีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันไป ขนาดของปลาอาจเล็กใหญ่ผิดกันไปได้ตั้งแต่ 1.2 เซนติเมตร จนถึง 22 เมตร ปลาส่วนใหญ่มีรูปร่างเพรียว หัวแหลมท้ายแหลม ที่มีรูปร่างเป็นอย่างอื่นก็มีอยู่อีกเป็นจำนวนมาก
การแบ่งชนิดของปลาน้ำจืดแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ปลาที่มีเกล็ด และปลาที่ไม่มีเกล็ด(ปลาหนัง)
1. ปลาที่มีเกล็ด คือ ปลาที่มีเกล็ดล้อมรอบตลอดทั้งลำตัว ตั้งแต่หัวจรดไปถึงหาง ซึ่งเป็นเสมือนเกราะป้องกันลำตัว เช่น ปลาตะเพียน ปลายี่สก ปลากระโห้ เป็นต้น
2. ปลาที่ไม่มีเกล็ดหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า"ปลาหนัง" คือ ปลาที่ไม่มีเกล็ดล้อมรอบลำตัว เช่น ปลากด ปลาแขยง ปลาสวาย ปลาเทโพ เป็นต้น
ปลาน้ำจืดในประเทศไทยนั้น มีมากมายหลายพันหลายหมื่นชนิดมีทั้งปลาที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติ ตามลำห้วย หนอง คลอง บึง อ่างเก็บน้ำ เขื่อนต่างๆ ปลาที่อาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำธรรมชาตินั้น เป็นปลาที่นักบริโภคหมายปองที่จะได้ลิ้มลองรสชาดของเนื้อปลาเป็นที่นิยมมากที่สุด ซึ่งถือได้ว่าปลาธรรมชาติจะเป็นปลาที่มีรสชาดอร่อยที่สุด เช่น ปลาช่อน ปลานิล ปลาตะเพียน ปลายี่สก ปลาสลิด เป็นต้น
ปลาชนิดเดียวกันที่มีความนิยมบริโภคอย่างมาก แต่เพราะความที่มีจำนวนน้อยและหายาก ปลาเหล่านั้นก็ได้มีการเพาะพันธุ์เเละเพาะเลี้ยงเพื่อการจำหน่ายเพื่อบริโภคเพื่อจำหน่ายและมีตวามนิยมที่รองลงมาจากปลาธรรมชาติก็คือ ปลาเศรษฐกิจปลาเศรษฐกิจที่มีเกษตรกรจำนวนมากได้เพาะเลี้ยงเพื่อจำหน่ายกันอย่างแพร่หลายจำนวนมาก เช่น ปลาทับทิม ปลานิล ปลาช่อน ปลาสวาย ปลาจาระเม็ดน้ำจืด(เปคู) ปลาสลิด อีกทั้งยังมีปลาธรรมชาติ
ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องของการตกปลา เราควรที่จะรู้จักปลาชนิดต่างๆ รู้จักหน้าตา และอุปนิสัยการกิน การอยู่อาศัยของปลา ซึ่งจะเป็นแนวทางและเป็นประโยชน์ในการจัดสรรหาเสาะแสวงหาเหยื่อเพื่อที่จะนำไปตกปลาตามชนิดและความต้องการในการตกปลาได้อย่างถูกต้อง การตกปลาละชนิดไม่ว่าจะอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ หรือจะอาศัยอยู่ในบ่อเลี้ยงปลา โดยส่วนใหญ่นิสัยของปลาก็จะมีนิสัยที่คล้ายๆ กันหรือเหมือนกัน เช่น ปลาช่อน ปลาชะโด ไม่ว่าจะอาศัยอยู่แหล่งน้ำใด ปลาชนิดนี้ก็มีนิสัยห่วงถิ่น ค่อนข้าวดุ และกินปลาเล็กหรือกบเขียดตัวเล็กๆหรือแมลงเป็นอาหาร เป็นต้น
ปลาน้ำจืดที่นิยมในการบริโภคของคนไทย
ปลาช่อน
ชื่อไทย
STRIPED SNAKE-HEAD FISH
Channa striatus
แพร่กระจายตามแหล่งน้ำต่าง ๆ ทั่วประเทศ
เนื้อสัตว์ต่าง ๆ
ความยาวประมาณ 30-50 เซนติเมตร
เป็นปลาเศรษฐกิจที่มีราคาใช้ทำอาหารได้หลายรูปแบบ เช่น ตากแห้ง ปลาร้า ปลารมควัน
ปลาชะโด
ชื่อไทย
ชะโด, แมลงภู่, อ้ายป๊อก
GIANT SNAKE-HEAD FISH
Channa micropeltes
ในแม่น้ำ และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย
สัตว์น้ำต่าง ๆ
ความยาวประมาณ 30-50 เซนติเมตร
ปลาเศรษฐกิจสำคัญ เมื่อปลามีขนาดเล็กใช้เลี้ยงเป็นปลาสวยงามโดยมีชื่อเรียกว่า "ปลาตอร์ปิโด" ส่วนปลาที่มีขนาดใหญ่ใช้บริโภคมีรสชาติดีเยี่ยม
ปลากระสูบขีด
กระสูบขีด
TRANSERSE-BAR BARB
Hampala macrolepidota Van Hasselt
กินปลาขนาดเล็กเป็นอาหาร
ความยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร ขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งเคยพบภายในประเทศไทยยาวเกิน 50 เซนติเมตร
เป็นอาหารได้ทั้งสด และแปรรูป เช่น รมควันและตากแห้ง
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปลากระสูบจุดกระสูบจุด
EYE-SPOT BARB
Hampala dispar Smith
พบในแม่น้ำ ลำคลอง หนองและบึง ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น แม่น้ำมูลที่อุบลราชธานี หนองหานจังหวัดสกลนคร แม่น้ำศรีสงครามจังหวัดนครพนม และห้วยหลวงจังหวัดอุดรราชธานี
กินลูกกุ้ง ลูกปลาซึ่งมีขนาดเล็กกว่า
ความยาวประมาณ 11-20 เซนติเมตร
เป็นอาหารได้ทั้งสดและดองทำเป็นปลาร้า ปลาเจ่า
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปลาหมอ
หมอไทย, หมอ, สะเด็ด, เข็ง
COMMON CLIMBING PERCH
Anabas testudineus
กินลูกปลา ลูกกุ้ง แมลง ซากสัตว์และพืชที่เน่าเปื่อย
ความยาวประมาณ 7-23 เซนติเมตร
ปลาหมอเทศ
หมอเทศ
JAVA TILAPIA
Tilapia mossambica
ในแม่น้ำ ทะเลสาบ เดินมีถิ่นกำเนิดในทวีปอาฟริกา
กินพืชน้ำสาหร่าย ซากพืชและสัตว์ที่เน่าเปื่อย
มีความยาว 10-29 เซนติเมตร
ปลาหมอช้างเหยียบ
ชื่อไทย
STRIPED TIGER NANDID
Pristolepis fasciatus
ตามแม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง
กินไข่ปลาทุกชนิด ลูกกุ้ง ลูกปลาและแมลงน้ำ
ความยาวโดยทั่วไป 5-20 เซนติเมตร
เนื้อปลาใช้เป็นอาหาร
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปลานิล
นิล
NILE TILAPIA
Tilapia nilotica
กินได้ทุกชนิด เช่น ไรน้ำ ตะไคร่น้ำ ตัวอ่อนของแมลงและสัตว์น้ำเล็ก ๆ
ความยาวประมาณ 10-30 เซนติเมตร
แพร่ขยายพันธุ์ง่ายเนื้อมีรสดี ปัจจุบันเป็นปลาเศรษฐกิจที่นิยมบริโภคกันมาก
ปลาไน
ไน, หลี, หลีโกว
COMMON CARP
Cyprinus carpio
อยู่ในแม่น้ำ หนอง บึง หรือแหล่งน้ำขนาดใหญ่
เป็นปลากินพืช แมลง
ความยาวประมาณ 20-75 เซนติเมตร
เนื้อของปลาไนมีรสดีแต่มีกลิ่นคาวมาก ประเทศจีนสมัยโบราณ ปลาไนถือเป็นอาหารของฮ่องเต้ หวงห้ามมิให้ประชาชนทั่วไปจับมาเป็นอาหาร
ปลาตะเพียน
ตะเพียนขาว, ตะเพียน
COMMON SILVER BARB
Puntius gonionotus
พบตามแหล่งน้ำไหล และน้ำนิ่งทั้งในภาคลาง ภาคเหนือและภาคอีสาน
มีความยาวประมาณ 8-36 เซนติเมตร
เป็นปลาเศรษฐกิจที่กรมประมงส่งเสริมให้เลี้ยง เนื้อใช้ประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น ปลาร้า ปลาเจ่า ปลารมควันและใส่เกลือตากแห้ง
ปลาตะโกก
ตะโกก, โจก
SOLDIER RIVER BARB
Cyclocheillichthys enoplos
หากินตามพื้นดิน กินพวกตัวอ่อนของหนอนและหอยน้ำจืด
พบทั่วไปยาว 30-40 เซนติเมตร แต่ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบ มีความยาวถึง 80 เซนติเมตร
เนื้อมีรสดี ราคาแพง นิยมนำมาทำเป็นอาหารประเภทต้มยำ
ปลานวลจันทร์น้ำจืด
นวลจันทร์น้ำจืด
SMALL SCALE MUD CARP
Cirrhina microlepis
อยู่ตามแม่น้ำใหญ่ เช่น แม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่อยุธยาขึ้นไปถึงนครสวรรค์ จนถึงบึงบอระเพ็ดทางภาคอิสานพบมากในลำน้ำโขง ชาวประมงบริเวณริมโขงแถบจังหวัดอุบลราชธานีเรียกปลา ตัวนี้ว่า "ปลานกเขา" ส่วนชื่อ "นวลจันทร์" หรือ "นวลจันทร์น้ำจืด" เป็นชื่อเรียกที่ใช้เรียกกันในภาคกลาง
เป็นปลาที่กินอาหารไม่เลือก กินได้ทั้งพืช กุ้ง แมลงและตัวอ่อนของแมลง
ความยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร เคยพบตัวยาวที่สุดถึง 80 เซนติเมตร
เนื้อมีรสอร่อย
ปลายี่สกไทย
ยี่สก, ยี่สกไทย
JULLIEN'S GOLDEN-PRICE CARP
Probarbus jullieni
อยู่ตามแม่น้ำที่พื้น เป็นกรวด หินหรือทราย ในฤดูวางไข่จะอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ ๆ ฝูงละ 30-40 ตัว บริเวณที่วางไข่อยู่ท้ายเกาะกลางแม่น้ำ ก่อนวางไข่พ่อแม่ปลาจะไล่กันเสียงดัง ชาวบ้านเรียกว่า "ปลาบ้อน" การผสมพันธุ์เรียกว่า ปลาถือกัน ฤดูวางไข่ตกราวเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์
ใหญ่ที่สุดเท่าที่พบมีความยาว 1 เมตร และมีน้ำหนักถึง 40 กก.
เนื้อมีรสอร่อย ราคาแพง
ปลายี่สกเทศ
ยี่สกเทศ
ROHU
Labeo rohita
กินแพลงก์ตอนและพืชน้ำขนาดเล็ก
ความยาวประมาณ 15-70 เซนติเมตร
เนื้อมีรสอร่อยคล้ายคลึงกับปลายี่สก
ปลากา, เพี้ย
กา, เพี้ย
GREATER BLACK SHARK
Morulius chrysophekadion (Bleeker)
แหล่งน้ำที่มีระดับน้ำตื้น ๆ และมีพันธุ์ไม้น้ำ
ตะไคร่น้ำ พืชน้ำขนาดเล็ก แพลงก์ตอน ซากพืชและตัวอ่อนแมลงน้ำ
ใหญ่ที่สุดมีความยาวถึง 48 เซนติเมตร
เป็นปลาสวยงามที่ส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศ นอกจากนี้ยังนิยมบริโภคกันมากในภาคเหนือและภาคอีสาน
ปลาบ้า, ปลาพวง
บ้า, พวง
HOEVEN'S SLENDER CARP
Leptobarbus hoeveni
กินเมล็ดพืชและผลไม้ทุกชนิด
พบทั่วไปมีความยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร ขนาดใหญ่ที่สุดยาวถึง 50 เซนติเมตร
เนื้อใช้ปรุงอาหาร
ปลากราย
กราย, หางแพน, ตองกราย
SPOTTED FEATHERBACK
Notopterus chitala (Hamilton-Buchanan)
ได้แก่ แมลงน้ำ ลูกกุ้ง ปลาผิวน้ำตัวเล็ก ๆ เช่น กระทุงเหว เสือ ซิว และสร้อย
ที่พบทั่วไปมีความยาว 48-85 เซนติเมตร
เนื้อมีรสอร่อย เหมาะสำหรับใช้ทำลูกชิ้นหรือทอดมัน ส่วนเชิงของปลากราย นิยมกันว่า หากนำมาทอดจะมีรสชาติอร่อยกว่าเนื้อปลาส่วนอื่น ๆ
ปลากระโห้
กระโห้, กะมัน, หัวมัน
SIAMESE GIANT CARP
Catlocarpio siamensis Boulenger
กินแพลงก์ตอนและพันธุ์ไม้น้ำ
เนื้อมีรสอร่อยใช้ปรุงเป็นอาหารได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิงเนื้อเพดานปากของปลาชนิดนี้กล่าวกันว่ามีรสชาติโอชะยิ่งนัก
ที่มา : กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
จัดเตรียมโดย : ประวิทย์ สุรนีรนาถ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ปลาจีนปลาจีนเป็นชื่อที่ใช้เรียกปลา 3 ชนิด คือ ปลาเฉาหรือเฉาฮื้อ หรือปลากินหญ้า ปลาลิ่นหรือปลาลิ่นฮื้อ หรือปลาเกล็ดเงิน และปลาซ่งหรือซ่ง ฮื้อหรือปลาหัวโต ปลาทั้งสามชนิดนี้เป็นปลาที่นำเข้ามาจากประเทศจีน เมื่อนำมาเลี้ยงในประเทศไทย พบว่า ปลาทั้งสามชนิดนี้เจริญเติบโตได้ดีโดยเฉพาะ การเลี้ยงในบ่อที่มีขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ปลาจะไม่วางไข่ในบ่อเลี้ยง จึงจำเป็นต้องเพาะพันธุ์ดดยวิธีการฉีดฮอร์โมนผสมเทียม
แหล่งกำเนิด
ปลาจีน มีแหล่งกำเนิดอยู่ในภาคกลางและภาคใต้ของประเทศญี่ปุ่น แถบลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง
ลักษณะทั่วไป
ในบรรดาปลาจีนทั้ง 3 ชนอดนี้ ปลาลิ่นและปลาซ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันมากที่สุด จะสังเกตุความแตกต่างได้จากลักษณะของหัว ซึ่งปลา ซ่งมีหัวค่อนข้างโตเมื่อเทียบกับลำตัว จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ปลาหัวโต (Bighead carp) ไม่มีสันบริเวณท้อง ตรงข้ามกับปลาลิ่นซึ่งมีหัวขนาดเล็ก กว่าและมีสันแหลมบริเวณท้อง ปลาทั้งสองชนิดนี้มีเกล็ดสีเงินแวววาว แต่บางครั้งเกล็ดของปลาซ่งจะมีสีดำเป็นจุดอยู่บนเกล็ดบางส่วน สำหรับปลาเฉานั้นมี เกล็ดขนาดใหญ่ นอกจากนั้นลำตัวยังกลมและยาวมากกว่า ส่วนหลังมีสีดำน้ำตาล ส่วนท้องสีขาว
(อ้างอิง : กรมประมง http://www.fisheries.go.th/if-suratthani/1plajeen.htm)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปลาแรด
แรด, เม่น, มิ่น
GIANT GOURAMI
Osphronemus goramy
กินพืชแทบทุกชนิด
ความยาวประมาณ 20-60 เซนติเมตร
เนื้อมีรสดีใช้ปรุงเป็นอาหาร นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม มีความเชื่องมาก
ปลาสลิด
สลิด, ใบไม้, ปาน
SNAKESKIN GOURAMI
กินแมลงน้ำตัวอย่าง ลูกน้ำ ลูกไร ตะไคร่น้ำ และแพลงก์ตอน
ความยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร
ใช้ปรุงเป็นอาหารโดยทำปลาแห้ง
ปลาพลวง
พลวง, พลวงหิน, มุง
SORO BROOK CARP
Tor soro Tor soro
กินแมลง พืชและผลไม้
โดยทั่วไปมีความยาวประมาณ 15-30 เซนติเมตร ขนาดใหญ่ที่พบมีความยาวถึง 50 เซนติเมตร
เนื้อปลาใช้ปรุงเป็นอาหารได้
ปลาม้า
ม้า, กวาง
SOLDIER CROAKER
Nibea soldado
สัตว์ต่าง ๆ
ความยาวประมาณ 17-60 เซนติเมตร
เนื้อปลาใช้ปรุงอาหาร ได้ดี ถุงลมนำไปตากแห้งสำหรับทอดหรือต้มตุ๋นเป็นอาหาร ที่เราเรียกกันว่า กระเพาะปลา และทำเป็นการที่เรียกกว่า ไอชิงกลาส
ปลากระมัง
กระมัง, มัง, หวี, เลียม, เหลี่ยม, แพะ, สะกาง
Puntioplites proctozsron (Bleeker)
ในแหล่งน้ำจืดทั่ว ประเทศไทย แต่ละภาคจะเรียกชื่อแตกต่างกันไปตามภาษาท้องถิ่น ภาคกลางเรียกว่า ปลากระมัง บางแห่งเรียกชื่อสั้น ๆ เช่นที่บึงบอระเพ็ด เรียกว่า ปลามัง หรือบางคนเรียก ปลาสมิด ที่ปากน้ำโพมักเรียก ปลาเลียม หรือปลาเหลี่ยม
พืชพันธุ์ไม้น้ำ อินทรีย์สารที่เน่าเปื่อย
ความยาวประมาณ 13-15 เซนติเมตร และขนาดใหญ่ที่สุดมีผู้พบยาวประมาณ 22-22.5 เซนติเมตร
ปลากระมังใช้เป็นอาหารได้ทั้งสดและตากแห้ง
ปลาบู่
บู่ทราย, บู่จาก, บู่ทอง, บู่เอื้อย, บู่สิงโต
แพบแพร่กระจายอยู่ใน แม่น้ำ ลำคลอง บึง ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ในปัจจุบันมีผู้นิยมเลี้ยงปลาชนิดนี้ในกระชังที่แขวนลอยอยู่ในแม่น้ำทางแถบ จังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์ และอยุธยา
กินลูกกุ้ง ลูกปลาและหอย เป็นปลาที่กินจุ สามารถกินอาหารหนักเท่ากับน้ำหนักของมันต่อวันและทุก ๆ วัน
เนื้อของมันนุ่ม รสดี เป็นปลาที่มีก้างน้อย แต่คนไทยไม่นิยมกินเพราะรังเกียจผิวหนัง ซึ่งมีลักษณะคล้ายหนังงูและมีความเชื่อถือเกี่ยวกับนิทานปรำปราว่าเป็นปลา ซึ่งกลายร่างมาจากคน ส่วน คนจีนนิยมรับประทานเพราะเชื่อว่าให้พลังทางเพศ
ปลาดุก
ดุกด้าน, ดุก
BATRACHIAN WALKING CATFISH
Clarias batrachus
สัตว์ทั้งที่มีชีวิตและซากของสัตว์
ความยาวลำตัวประมาณ 10-40 เซนติเมตร
เป็นปลาเศรษฐกิจใช้เป็นอาหาร
ปลาแขยง
แขยงข้างลาย
Mystus vittatus
กินลูกกุ้ง ลูกปลา แมลงน้ำ ซากพืชและสัตว์ที่เน่าเปื่อย
ความยาวประมาณ 10-18 เซนติเมตร
นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม เนื้อใช้ปรุงเป็นอาหารได้
ปลากดหิน
กดหิน, แขยงหิน
SIAMESE ROCK CATFISH
กินลูกปลา ลูกกุ้ง และสัตว์น้ำที่มีขนาดเล็ก
ความยาวประมาณ 17 เซนติเมตร
นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม เนื้อใช้ปรุงอาหารได้
ปลากดเหลือง
Hemibagrus filamentus
พบในแหล่งน้ำนิ่งและแม่น้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ยกเว้นแม่น้ำสาละวิน
กินลูกปลา ลูกกุ้ง และสัตว์น้ำที่มีขนาดเล็ก
ความยาวประมาณ 5 - 45 เซนติเมตร
นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม เนื้อใช้ปรุงอาหารได้
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปลากดคัง
(อ้างอิงภาพ : เวบจ้าวน้อยฟิชชิ่ง)
ปลากดคังหรือ กดแก้ว กดหางแดง กดข้างหม้อ กดเขี้ยว หรือ ปลาคัง มีชื่อสามัญว่า Red tail Mystus และมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mystus wyckioides (Chaux and Fang,1949) ปลากดคังเป็นปลาเศรษฐกิจชนิดหนึ่ง เนื่องจากเป็นปลาที่มีรสชาติเป็นที่นิยมของผู้บริโภคและเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม ทำให้มีราคาจำหน่ายค่อนข้างสูง พบแพร่กระจายกว้างขวาง มีถิ่นอาศัยในแหล่งน้ำธรรมชาติ บริเวณแม่น้ำลำคลอง ตลอดจนอ่างเก็บน้ำ และเขื่อนต่าง ๆ ทั่วไป
(วารสารฟาร์มมิ่ง ปีที่ 5 ฉบับที่ 33 พ.ศ.2542 โดย วิศณุพร รัตนตรัยวงศ์ กองประมงน้ำจืด กรมประมง)
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปลาแค้
แค้, ตุ๊กแก
GIANT BAGARIUS
แม่น้ำสายใหญ่ ๆ แทบทุกสาย เช่น ภาคเหนือที่แม่น้ำปิง จ.เชียงใหม่ แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปากน้ำโพ จ. นครสวรรค์ แม่น้ำโขง จ.หนองคาย และภาคใต้ ที่แม่น้ำปัตตานี
กินกุ้ง ปลา กบและสัตว์น้ำที่อาศัยหน้าดิน
ใช้ในการบริโภค
ปลาสวาย
สวาย
STRIPED CATFISH
Pangasius sutchi
กินซากสัตว์และซากพืชที่เน่าเปื่อยรวมทั้งวัชพืช ลูกหอย หนอน ไส้เดือน
ความยาวประมาณ 20-100 เซนติเมตร
เนื้อมีรสโอชะ นิยมบริโภคกันมานับแต่ครั้งโบราณกาล
ปลาบึก
บึก, ไตรราช
MEKONG GIANT CATFISH
Pangasianodon gigas
แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำแหล่งเดียวในโลกที่เป็นถิ่นอาศัยของปลาบึก
กินตะไคร่น้ำ ลูกปลาวัยอ่อน กินไรน้ำ ตัวอ่อนแมลงและกินลูกปลาขนาดเล็ก
ขนาดใหญ่ที่สุดมีความยาว 2.5 เมตร แต่มีรายงานบางแห่ง บันทึกไว้ว่ามีความยาวถึง 3.0 เมตร
เนื้อปลามีรสดีและราคาแพงมาก
ปลาเทโพ
เทโพ, หูหมาด
BLACK EAR CATFISH
Pangasius larnaudi
กินสัตว์น้ำที่ขนาดเล็กกว่าและซากของสัตว์
เนื้อมีรสอร่อย ใช้ปรุงอาหาร
ปลาเทพา
เทพา
CHAO PHRAYA GIANT CATFISH
Pangasius sanitwongsei
ความยาวประมาณ 1.0-2.5 เมตร
เนื้อปลาใช้เป็นอาหารได้
ปลาเค้า
เค้า
Wallagonia attu
พบอยู่ตามแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา บึงบอระเพ็ด แม่น้ำโขง
กินปลาขนาดเล็ก เช่น ปลาสร้อย
เนื้อมีรสดีมาก โดยเฉพาะเมื่อนำไปทำเป็นปลาร้า
ปลาฉลาด
GREY FEATHER BACK
Notopterus notopterus
พบตามแม่น้ำ ลำคลอง หนองบึงและอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามท้องถิ่นที่พบ เช่น ภาคเหนือเรียกหางแพน แต่ชาวแม่ฮ่องสอนเรียกว่า ปลาวาง ภาคอีสานมีชื่อว่า ปลาตอง
กินลูกกุ้ง ลูกปลาและแมลงน้ำ
เนื้อปลาใช้ปรุงอาหาร หรือนำมาแปรรูปเป็นปลารมควัน
ปลากระทิง
กระทิงดำ, หลาด
ARMED SPINY EEL
Mastacembelus armatus Gunther
ในแม่น้ำ หนองบึงและอ่างเก็บน้ำทั่วทุกภาค
กินแมลง ลูกกุ้ง ลูกกบและปลาอื่น ๆ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า
เคยมีผู้พบ ยาวถึง 70 เซนติเมตร
เนื้อมีรสอร่อย ปรุงเป็นอาหารได้หลายอย่าง
ปลาหลด
หลด, หลดจุด
Macrognathus siamensis
พบตามแม่น้ำ ลำคลอง หนองและบึง ชอบฝังตัวในดินโคลน หรือบริเวณที่มีใบไม้เน่าเปื่อย
ความยาวประมาณ 15-30 เซนติเมตร
เนื้อมีรสอร่อยใช้รมควัน แกงเผ็ดและต้มยำ ต่างประเทศเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม
ปลาไหล
ชื่อไทย
ไหล, ไหลนา, เหยี่ยน
SWAMP EEL
Fluta alba
พบตามหนอง บึง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำนิ่ง อาจจะพบในนาข้าว ร่องสวน ในบริเวณที่เป็นโคลนเลน
เนื้อมีรสชาติดี ใช้ปรุงเป็นอาหาร บางท่านนิยมปล่อยปลาไหลเพื่อสะเดาะเคราะห์
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปลาตูหนา
ชื่อไทย
Anguilla australis
พบปลาตูหนาเป็นครั้ง แรกเมื่อ พ.ศ.2469 จังได้จากคลองบางกะปิ กรุงเทพมหานคร มีความยาว 65 เซนติเมตร ชาวบ้านเข้าใจผิดคิดว่าเป็นปลาไหลไฟฟ้า บ้างก็ว่าเป็นมังกร ไม่ทราบว่า ใครตั้งชื่อว่าเป็น ปลาตูหนา ส่วนที่พบทางปักษ์ใต้แถบจังหวัดระนองและตรังเรียกว่า "ปลาไหลหูดำ" บางท่านกล่าวว่า มีอีกชนิดหนึ่งหูขาว เรียกว่า ปลาไหลหูขาว ทางภาคเหนือพบในบริเวณลุ่มแม่น้ำสาละวิน ซึ่งงอยู่แถบมหาสมุทรอินเดีย เช่นเดียวกับตรังและระนอง ปลาตูหนา
เนื้อของปลาตูหนาเป็นที่นิยมชมชอบของประชาชนในบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่วนมากนิยมนำมาต้มยำหรือผัดเผ็ด
ที่มา : กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
จัดเตรียมโดย : ประวิทย์ สุรนีรนาถ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น